ปรึกษาแพทย์ และจองคิวปี 2024 ได้เลยตอนนี้! 064-6969693 | 11:00 - 19:00น.

Tel Line Messenger
เสริมคาง

ไขข้อสงสัย เสริมคางแผลนอก-แผลใน แบบไหนดี?

หมอป๊อบ

หมอป๊อบ

18 กรกฎาคม 21

ไขข้อสงสัย เสริมคางแผลนอก-แผลใน แบบไหนดี?

เสริมคางแผลนอก หรือ เสริมคางแผลใน แบบไหนดีกว่ากัน วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบ พร้อมเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการเสริมคางทั้ง 2 แบบ รวมถึง การดูแลหลังเสริมคาง แผล ใน แผลนอก

 

ในปัจจุบันหนุ่มสาวนิยมหันมาทำศัลยกรรมกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องในร่างกายเพื่อทำให้เราดูดีขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมความมั่นใจให้ตัวเองด้วย โดยการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดรองลงมาจากการเสริมจมูกก็คงจะหนีไม่พ้นการเสริมคาง ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องคางถอย คางสั้น คางบุ๋ม และคางตัด อีกทั้งยังปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยยิ่งขึ้นด้วย วันนี้เราจึงถือโอกาสพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการศัลยกรรมเสริมคาง และการดูแลตัวเองหลังเสริมคางกันค่ะ

การเสริมคางมีกี่แบบ ?

 

การศัลกรรมเสริมคางสามารถแบ่งตามตำแหน่งได้ 2 แบบ คือ เสริมคางแผลนอกและเสริมคางแผลใน

 

เสริมคางแผลนอก

 

แพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คางด้านนอก ขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร จากนั้นจึงวางซิลิโคนตามตำแหน่งที่ต้องการแล้วเย็บปิดแผล โดยข้อดี-ข้อเสียของการเสริมคางแผลนอก มีดังนี้

 

ข้อดีของการทำคางแผลนอก

 

      • แพทย์สามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้อย่างแม่นยำ
      • แพทย์สามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินบริเวณใต้คางได้
      • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ การติดเชื้อ และอาการบวมหลังผ่าตัด
      • คนไข้สามารถดูแลรักษาแผลหลังผ่าตัดได้ง่าย เพราะเป็นการเปิดแผลใต้คางด้านนอก
      • เมื่อมีปัญหาหลังผ่าตัดสามารถปรับแก้ได้ง่าย

 

ข้อเสียของการเสริมคางแผลนอก

 

      • ในช่วงแรกหลังผ่าตัดต้องระมัดระวังห้ามให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจจะทำให้แผลหายช้าและเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
      • หลังแผลหายอาจเกิดรอยแผลเป็นบริเวณที่ผ่าตัด
      • การเสริมคางแผลนอกไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นแผลเป็นคีลอยด์ได้ง่าย

 

เสริมคางแผลใน

 

เป็นการผ่าตัดเปิดแผลภายในช่องปากบริเวณด้านหน้าเหงือกล่าง ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร โดยแพทย์จะแยกเยื่อหุ้มกระดูกคางบริเวณขอบล่างขึ้นมา จากนั้นจึงวางซิลิโคนตามตำแหน่งที่ต้องการ แล้วเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย

 

ข้อดีของการทำคางแผลใน

 

      • แผลสามารถโดนน้ำได้

      • การเสริมคางแผลในถือเป็นตำแหน่งที่ได้รับความนิยมสูง เพราะไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น

 

ข้อเสียของการเสริมคางแผลใน

 

      • มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง ซึ่งเกิดจากน้ำลาย อาหารที่รับประทานเข้าไป รวมถึงเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
      • คนไข้ดูแลรักษาแผลหลังผ่าตัดได้ยาก เนื่องจากแผลอยู่ภายในช่องปาก
      • ในช่วงแรกหลังการผ่าตัดอาจจะทำให้รับประทานอาหารได้ลำบากเล็กน้อย และต้องงดอาหารบางประเภท เช่น อาหารรสจัด, อาหารเย็นจัด และอาหารร้อนจัด เป็นต้น

ข้อแตกต่างของการเสริมคางแผลนอกและแผลใน

 

อันดับแรกเลยก็คือตำแหน่งการเปิดแผล โดยการเสริมคางแผลนอกจะแพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คางด้านนอก ส่วนการเสริมคางแผลในจะเปิดแผลภายในช่องปากบริเวณด้านหน้าเหงือกล่าง และอย่างที่ทราบกันดีว่าการศัลยกรรมมักมาคู่กับปัญหารอยแผลเป็น ซึ่งการเสริมคางแผลนอกแน่นอนว่าอาจจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้เล็กน้อย ในทางกลับหากคุณเลือกเสริมคางแผลในก็จะไม่เห็นรอยแผลเป็นเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุที่การเสริมคางแผลในได้รับความนิยมสูง แต่ก็ต้องยอมรับกว่าการเสริมคางแผลในดูแลแผลหลังผ่าตัดได้ยากกว่าการเสริมคางแผลนอก

ไขข้อสงสัย เสริมคางแผลนอก-แผลใน แบบไหนดี?

การพักฟื้นหลังเสริมคาง กี่วันถึงหายบวมช้ำ ?

 

หลังการศัลยกรรมเสริมคางจะบวมเล็กน้อยประมาณ 3-4 วัน และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในระยะเวลา 7-10 วัน จากนั้นจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 1-3 เดือน และยุบเต็มที่ในช่วง 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งการทำศัลยกรรมกับอาการบวมช้ำถือเป็นของคู่กัน เพราะฉะนั้นควรใจเย็น ๆ พักฟื้นรอเวลาให้ทุกอย่างเข้าที่ รับรองว่าดูดีขึ้นแน่นอนค่ะ

การดูแลรักษาหลังเสริมคางแผลใน

 

ต้องยอมรับเลยว่าการเสริมคางแผลในต้องการการดูแลรักษามากเป็นพิเศษ เพราะแผลผ่าตัดอยู่ภายในช่องปาก ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ

 

 

  • ในช่วง 1-3 วันแรก แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณคางและแก้มทั้ง 2 ข้าง ประมาณ 5 วินาที จากนั้นพอเข้าสู่วันที่ 4 ให้เปลี่ยนเป็นประคบร้อนบริเวณเดิมจนถึงวันตัดไหม วิธีนี้จะช่วยลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี
  • ควรนอนหมอนสูงหรือนั่งหลับโดยใช้หมอนรองคอไว้ในช่วงอาทิตย์แรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
  • สำหรับคนที่เสริมคางแผลใน ควรงดแปรงฟันประมาณ 1 สัปดาห์หลังทำ เมื่อครบกำหนดและแผลดีขึ้นแล้ว แนะนำให้แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร โดยใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเล็กร่วมกับยาสีฟันสำหรับเด็กที่มีรสชาติไม่เผ็ดร้อน และบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออีกครั้งเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ
  • ควรระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณคาง เพราะอาจจะทำให้ซิลิโคนที่เสริมเข้าไปเกิดการเบี้ยวหรือเอียงได้
  • หากเกิดอาการคันหรือระคายเคืองบริเวณผ้าด้ามแผล ห้ามแกะออกเองโดยเด็ดขาด แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย
  • ควรกินยาให้ครบขนาดตามที่แพทย์สั่ง เพื่อช่วยลดอาการบวม ติดเชื้อ และอักเสบของแผลผ่าตัด
  • งดรับประทานอาหารที่มีรสจัดและของแสลง เช่น ของหมักดอง, ปลาร้า, อาหารทะเล, ของสุก ๆ ดิบ ๆ, บุหรี่ และเครื่องแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพราะอาจจะทำให้แผลเกิดการติดเชื้อและอักเสบได้
  • หากมีอาการผิดปกติบริเวณแผลผ่าตัดควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยามารับประทานเองโดยเด็ดขาด

การดูแลรักษาหลังเสริมคางแผลนอก

 

การเสริมคางแผลนอก คนไข้จะสามารถดูแลรักษาแผลได้ง่ายกว่าการเสริมคางแผลใน เนื่องจากแผลผ่าตัดอยู่บริเวณใต้คางด้านนอก 

 

 

  • ในช่วง 1-3 วันแรก แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณคางและแก้มทั้ง 2 ข้าง ประมาณ 5 วินาที จากนั้นพอเข้าสู่วันที่ 4 ให้เปลี่ยนเป็นประคบร้อนบริเวณเดิมจนถึงวันตัดไหม เพื่อลดอาการบวมเช่นเดียวกับการเสริมคางแผลใน
  • ควรนอนหมอนสูงหรือนั่งหลับโดยใช้หมอนรองคอไว้ในช่วงอาทิตย์แรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
  • ควรกินยาให้ครบขนาดตามที่แพทย์สั่ง เพื่อช่วยลดอาการบวม ติดเชื้อ และอักเสบของแผลผ่าตัด
  • หากเกิดอาการคันหรือระคายเคืองบริเวณผ้าด้ามแผล ห้ามแกะออกเองโดยเด็ดขาด แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย
  • งดรับประทานอาหารที่มีรสจัดและของแสลง เช่น ของหมักดอง, ปลาร้า, อาหารทะเล, ของสุก ๆ ดิบ ๆ, บุหรี่ และเครื่องแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพราะอาจจะทำให้แผลเกิดการติดเชื้อและอักเสบได้
  • ทำความสะอาดแผลให้สะอาดอยู่เสมอ โดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ อีกทั้งยังช่วยทำให้แผลหายไวขึ้นด้วย
  • ควรระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณคาง เพราะอาจจะทำให้ซิลิโคนที่เสริมเข้าไปเกิดการเบี้ยวหรือเอียงได้

เสริมคางที่ Ve’anna Clinic ดีอย่างไร ?

 

สำหรับการศัลยกรรมเสริมทางที่ Ve’anna Clinic เคนไข้จะได้เข้ารับคำปรึกษาฟรีกับคุณหมอที่เป็นคนทำหัตถการให้เราโดยตรง เพื่อให้คุณหมอประเมินปัญหา พร้อมแนะนำว่าควรจะต้องปรับแก้อย่างไรถึงจะออกมาดูดีที่สุด ซึ่งคนไข้สามารถบอกความต้องการของตัวเองได้ จากนั้นคุณหมอก็จะเป็นคนประเมินให้อีกครั้งว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยทางคลินิกของเราจะใช้เทคนิคการฉีดยาชา ในการระงับความรู้สึก เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็ก มั่นใจได้เลยว่าด้วยเทคนิคการฉีดยาชาของคุณหมอไม่เจ็บอย่างที่ทุกคนคิดแน่นอนค่ะ ในส่วนของขั้นตอนการผ่าตัดคุณหมอจะใช้เทคนิควางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งข้อดีก็คือ เนียน ไร้รอยต่อ ดูสวยเป็นธรรมชาติ และช่วยป้องกันการเบี้ยว เอียงของซิลิโคน รวมถึงแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ทำให้บวมช้ำน้อย พักฟื้นเร็ว และคนไข้สามารถดูแลทำความสะอาดแผลได้ง่าย วันรุ่งขึ้นสามารถไปทำงานได้ทันที 

 

นอกจากนี้ ค่ายา ตัดไหม ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับประกัน 1 ปีด้วย เรียกได้ว่าสวยครบจบที่ Ve’anna Clinic

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Ve’anna Clinic

115/7 ซอยรัชดา 32 (เข้าซอยรัชดา 36 แยก 19-1) ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900


วิธีเดินทางมาที่ Ve’anna Clinic

1. เดินทางโดยรถไฟฟ้า (BTS)
  • สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพหลโยธิน 24 ทางออกที่ 1
  • ต่อวินมอเตอร์ไซค์จาก BTS มาที่ซอยรัชดาภิเษก 32
  • นั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาภายในซอยรัชดาภิเษก 32 จนถึงซอยบ้านเทพ (รัชดา 36 แยก 19-1) มีจุดสังเกตเป็นป้าย “ซอยบ้านเทพ” และมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 (สาขารัชดา 36 แยก 19) อยู่บริเวณปากซอย
  • เข้าซอยบ้านเทพ (รัชดา 36 แยก 19-1) คลินิกตั้งอยู่ในโครงการ the quartier รัชดา 32 เยื้องกับโรงแรม RICO

  • 2. เดินทางโดยไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
  • สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) มาลงที่สถานีลาดพร้าว ทางออกที่ 4
  • ต่อวินมอเตอร์ไซค์จาก MRT แจ้งจุดหมายปลายทางกับวินมอเตอร์ไซค์ว่า “มาที่ซอยบ้านเทพ” (รัชดา 36 แยก 19-1) มีจุดสังเกตเป็นป้าย “ซอยบ้านเทพ” และมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 (สาขารัชดา 36 แยก 19) อยู่บริเวณปากซอย
  • เข้าซอยบ้านเทพ (รัชดา 36 แยก 19-1) คลินิกตั้งอยู่ในโครงการ the quartier รัชดา 32 เยื้องกับโรงแรม RICO

  • 3. เดินทางด้วยรถส่วนตัว (มีที่จอดรถ)
  • คลินิกอยู่ในซอย รัชดาภิเษก 32 ตรงข้ามศาลอาญา
  • ตรงเข้าซอย รัชดาภิเษก 32 ขับตรงมาจนถึงซอยบ้านเทพ (รัชดา 36 แยก 19-1) มีจุดสังเกตเป็นป้าย “ซอยบ้านเทพ” และมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 (สาขารัชดา 36 แยก 19) อยู่บริเวณปากซอย
  • เข้าซอยบ้านเทพ (รัชดา 36 แยก 19-1) คลินิกตั้งอยู่ในโครงการ the quartier รัชดา 32 เยื้องกับโรงแรม RICO